วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กระบวนทัศน์ทางการศึกษาควรจะเปลี่ยนไปอย่างไร....??


   ท่ามกลางกระแสการพัฒนาที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน หากเรามองไปรอบๆตัวจะสังเกตเห็นได้ว่าโลกและสังคมของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในทุกๆด้าน  ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการศึกษา  การเมืองการปกครอง  เศรษฐกิจและสังคม  และเรื่องราวที่กำลังเป็นประเด็นที่เราควรตระหนัก  ตื่นตัวกันในตอนนี้คือ 

 การที่ประเทศไทยของเรากำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC (Asesn Economic Community) อย่างเต็มรูปแบบในปี 2558  ซึ่งจะทำให้การเปิดเสรีการค้า บริการ ส่วนด้านการศึกษาจะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายองค์ความรู้  ภาษา และวัฒนธรรมระหว่างกัน  ดังนั้นเพื่อพัฒนาความสามารถในการสร้างศักยภาพในการแข่งขันของประเทศในสังคมโลกจะต้องพัฒนาทักษะในด้านต่างๆให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  ซึ่งสามารถทำได้โดยวิธีการต่างๆมากมาย   ยิ่งในปัจจุบันเป็นยุคแห่งเทคโนโลยีหรือยุคดิจิตอล  ทำให้การติดต่อสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูลจากแหล่งต่างๆนั้นเป็นไปอย่างง่ายดายและสะดวก  รวดเร็วมากขึ้น  ซึ่งแตกต่างไปจากอดีตโดยสิ้นเชิง  


หากเราลองมองย้อนกลับไปในวัยเด็ก  เราได้รับความรู้จากการที่ครูบอก  ได้ความรู้จากหนังสือแบบเรียนที่เป็นแผ่นกระดาษ  เมื่อต้องการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมก็ทำได้โดยการไปค้นคว้าหนังสือจากห้องสมุด   ทำการบ้านโดยการเขียนลงในสมุด  ใบงาน  หรือในรูปแบบของรายงานก็ใช้วิธีการเขียนเช่นเดียวกัน   ใครที่ลายมือสวย  เขียนเป็นระเบียบเรียบร้อย  อ่านง่ายก็ถือได้ว่าโชคดี  และเป็นทั้งความโชคดีของทั้งตัวเองและตัวครูผู้สอนเลยล่ะ  ที่ไม่ต้องเสียเวลามากในการตรวจผลงาน  แต่ในทางตรงกันข้ามหากไม่เป็นแบบนั้นแล้วละก็....  ในการตรวจงานชิ้นหนึ่งๆคงใช้เวลาในการตรวจไม่น้อย  และคะแนนที่ออกมาก็คงจะมีความแตกต่างกับคนที่ลายมือสวยอย่างแน่นอน  ส่วนสื่อการเรียนเรียนการสอนที่คุณครูใช้ในการสอนนั้นจะเป็นภาพทั้งที่จากครูวาดเองและเป็นภาพสีที่นำมาจากแหล่งต่างๆ   และมีการให้ฟังเสียงจากเครื่องเล่นเทป  ดูVDO





 ในระยะต่อมาเมื่อเริ่มมีการใช้นำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ซึ่งในตอนนั้นฉันเองอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6  เห็นจะได้  ตอนนั้นคุณครูเริ่มมีการทำให้การทำรายงานโดยการพิมบางครั้งให้ปริ้นบางครั้งให้Save  ใส่แผ่นดิสก์  ทีนี้ล่ะหมดปัญหาความแตกต่างในด้านของลายมือไปซักที  



              ต่อมาในระดับชั้นมัธยมศึกษาได้มีการให้สืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตในช่วงแรกๆอินเตอร์เน็ตยังมีความเร็วไม่มากนัก  จากนั้นเริ่มมีการพัฒนาอินเตอร์เน็ตมีความเร็วมากขึ้น  ในช่วงนี้แผ่นดิสก์ได้หายไปกลายเป็นแผ่นCD-ROM แทน  นอกจากนั้นยังมีการให้ส่งงานผ่านอีเมล์ (e-mail) อีกด้วย  และโทรศัพท์มือถือก็มีการปรับเปลี่ยนจากที่ตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่พกพาไม่ค่อยสะดวก  ทำได้เพียงแค่โทรเข้า-ออก  และส่งข้อความ  ปรับปรุงให้มีขนาดเล็กลงพกพาสะดวกจึงทำให้โทรศัพท์มือถือเริ่มได้รับความนิยมกันทั่วไปจากนั้นมีการพัฒนาจอที่เป็นขาวดำกลายเป็นโทรศัพท์จอสี  สามารถถ่ายรูป  ฟังเพลงได้  ต่อมามีโทรศัพท์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้  ทำให้มนุษย์มีการใช้อินเตอร์เน็ตในการศึกษาหาข้อมูลต่างๆกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเนื่องจากมีข้อมูลมากมายอีกทั้งยังเป็นข้อมูลที่ทันสมัยอีกด้วย



               ในด้านของคอมพิวเตอร์ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันโดยมีการพัฒนาในด้านของความจุของความจำ  ความเร็ว  และรูปลักษณะภายนอก  จนมาถึงคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค




        ในปัจจุบันเป็นยุคดิจิตอลหรือยุคสังคมออนไลน์  (social network) ไม่ว่าจะมองไปทางไหนทุกคนๆต่างมีสมาร์ทโฟน  (smartphone)  แท็บแลต  เมื่อมีเวลาว่างก็จะใช้เวลาว่างอยู่กับสิ่งเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นระหว่างรอรับประทานอาหาร  ขึ้นรถโดยสาร  ฯลฯ ถือได้ว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้
        ดังนั้นการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในด้านต่างๆที่เราสนใจก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป  เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ  ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดของโลกหากมีอินเตอร์เน็ตและ  แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน  การศึกษาจึงไม่ได้จำกัดอยู่ภายในห้องเรียนหรือโรงเรียนเพียงเท่านั้น  เมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนาทำให้เรามีโอกาสเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น  แม้แต่การเล่นเฟสบุ๊คที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย  ก็สามารถใช้ศึกษาหาความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้เช่นกัน  ฉันเองก็อาศัยเทคโนโลยีในการศึกษาหาความรู้และความบันเทิงให้กับตนเอง  เช่น  ใช้อินเตอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูลเพื่อมาประกอบการทำรายงาน  ดูยูทูป   และโหลดแอฟพิเคชั่น  เกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษไว้ในสมาร์ทโฟน เพื่อเป็นการฝึกภาษาและเตรียมความพร้อมให้กับตนเองเนื่องจากประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  ในด้านความบันเทิงก็ดูหนัง  ฟังเพลง   ผ่านยูทูป  
        ฉะนั้นหากเราเรียนรู้วิธีการสร้างความรู้ด้วยตนเองและเรียนรู้เพื่อที่จะเข้าใจสภาวะสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและเตรียมตัวให้พร้อมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจะทำให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข